สมัยเป็นเด็ก ปู่เป็นคนช่างจินตนาการ และชอบถามคำถามแปลกๆ เสมอ เช่นคนเราเกิดมาทำไม? ใครสร้างน้ำ ต้นไม้ ภูเขา ? ทำไมต้องเรียนหนังสือ? คำถามหลังนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกใจ ปู่จึงไม่ยอมเรียนหนังสือ สอบตกอยู่สองปี เกิดมาวันหนึ่งเจอหนังสือการ์ตูน เกิดชอบใจอยากอ่าน ตั้งแต่นั้นปู่จึงรู้ว่าเรียนหนังสือทำไม ! ปู่กลายเป็นหนอนหนังสือในเวลาต่อมา
พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ปู่เริ่มสนใจเรื่องลัทธิปรัชญาต่างๆ ปู่เคยเข้าโบสถ์คริสต์เพื่ออ่านคัมภีร์ไบเบิล ขอเข้าสุเหร่าเพื่ออ่านคัมภีร์อัลกุรอาน และอ่านพระไตรปิฎกฉบับย่ออยู่หลายปี จากนั้นได้อ่านหนังสือธรรมะมาเรื่อยๆ และสะดุดลงที่หนังสือของท่านพุทธทาส ปู่อ่านหนังสือของท่านอย่างจริงจัง ได้ความคิดเกิดขึ้นมากมาย มีอยู่ตอนหนึ่งท่านพูดถึงพระเจ้า ท่านบอกว่าของเราก็มี เพียงแต่เรียกชื่อต่างกัน ฝรั่งเรียกพระเจ้าว่า ก๊อด ไทยเรียกว่า กฎหรือกฎธรรมชาติ หรือธรรมะนั้นเอง ความหมายใกล้เคียงกันแปลว่าผู้สร้าง ผู้กำหนดทุกสรรพสิ่งหรือเทพเจ้าสูงสุด เทพผู้สร้าง ผู้ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งทั้งปวง
ถ้าเรามาดูสิ่งต่างๆในโลกเช่น เปลือกหอยนานาชนิด ดอกไม้หลากสี เราจะทึ่งว่าใครหนอเป็นผู้ออกแบบ ช่างเก่งกาจเหลือเกิน แล้วยังมีกฎทางฟิสิกส์ กฎเคมี กฎแรงดึงดูด กฎพลศาสตร์และอีกมากมาย ใครเป็นคนตั้งกฎนั้นขึ้น แล้วยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายทั้งต้นไม้พืชพรรณต่างๆสัตว์น้อยใหญ่ ใครเป็นผู้สร้างขึ้นมา เราคงสรุปว่าพระเจ้าหรือธรรมชาติเป็นผู้สร้าง และสร้างกฎบังคับอีกชั้นหนึ่งเช่น การสืบพันธุ์ การแสวงหาอาหาร สัตว์ตัวหนึ่งถูกกำหนดให้เป็นอาหารของสัตว์อีกตัวหนึ่งเพื่อความสมดุล จนบางครั้งเรารู้สึกว่าโลกนี้โหดร้าย ดิบและป่าเถื่อน แต่ไม่มีใครจะต้านทานได้ ต่อมามนุษย์ได้สร้างอารยะธรรมขึ้น มีวิทยาการใหม่ๆ มีความสะดวกสบายมากขึ้น มนุษย์จึงเริ่มหาคำตอบว่า ทำไมชีวิตต้องวนเวียนอยู่อย่างนั้น เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรือ?
มนุษย์ได้เรียนรู้ว่าเราถูกบังคับไว้ถึงสามชั้น โดย
ชั้นแรกคือ ร่างกายของเราที่ถูกสร้าง มีข้อจำกัด บอบบางแบบไม่คงทน ตายได้ส่วนนี้ทำให้เรารู้ร้อนหนาว หิวอิ่ม
ชั้นที่สองคือ สัญชาตญาณต่างๆ ที่ติดตัวมา เช่นการสืบพันธุ์ การรักษาเผ่าพันธุ์ การอยู่รอด ส่วนนี้ทำให้เราต้องดิ้นรนเพื่อแสวงหา
ชั้นที่สาม เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ความนึกคิด เป็นตัวสะท้อนความทุกข์สุขของเรา ความพอใจไม่พอใจ
ซึ่งจากการควบคุมถึงสามระดับ เป็นเรื่องยากที่เราจะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการนี้ได้ง่ายๆ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีคนคนหนึ่ง กล้าออกมาประกาศอิสรภาพจากกฎของโลก เป็นผู้ทวนกระแสโลก ได้สอนให้เราเข้าใจกฎของโลก และก้าวข้ามออกมาจากความทุกข์ที่กักขังเราไว้
คนคนนั้นคือพระศากยมุนีพุทธเจ้า แนวทางนี้พิสูจน์มาแล้วมากกว่า 2,500 ปี ทำให้มนุษย์พ้นจากความทุกข์นั้นได้ เมื่อเรารู้แล้วและความรู้นั้นยังคงอยู่ เราไม่ควรรั้งรอเสียโอกาสนี้ไป เรามาเดินตามพระพุทธองค์ ไปสู่อิสรภาพหาทางหลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ทั้งปวง เป็นอริยะและอิสระชนกันเถิด
หมายเลขไอพี : 5.187.75.xxx
โพสเมื่อ : September 2, 2020 เวลา 16:13:26