ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
 

 

รวมลิ้งค์ เว็บไซต์ธรรมะ ที่น่าสนใจ
  THAIWARE Dharma | รายละเอียด บทความ บทสวด บทคาถา ธรรมะ
เลือกขนาดตัวอักษร ขนาดตัวอักษร :  ก   ก   ก   ก 

ทุกอย่างที่เห็นหรือรู้สึก บนโลกนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่อง สมมุติ ทั้งสิ้น

 

    Share  
 

 

มีภาพยนต์ฝรั่งอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ปู่ได้ดูแล้วชอบมาก เป็นจินตนาการถึงโลกในอนาคต เกิดสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร มนุษย์ได้ทำลายแหล่งพลังงานของเครื่องจักร ซึ่งมาจากแสงอาทิตย์ โดยทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่วโลกจนมืดมิด เป็นเหตุให้โลกเย็นลง มนุษย์ต้องหนีลึกลงไปใกล้แกนโลก เพื่อให้เกิดความอบอุ่น เครื่องจักรแก้ปัญหานี้ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากตัวมนุษย์ ได้นำทารกไปเลี้ยงในหลอดแก้ว และสร้างโลกเสมือนด้วยโปรแกรมต่างๆจากคอมพิวเตอร์ ทำให้มนุษย์เติบโตและอยู่ในฝันเหมือนกับอยู่บนโลกจริงๆ

ความฝันของมนุษย์ได้ผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนให้แก่เครื่องจักร การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป และในขณะเดียวกันมนุษย์ได้แอบเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อปลุกคนที่อยู่ในหลอดแก้วให้มาร่วมต่อสู้ด้วย จนในที่สุดพวกเขาได้พบผู้นำทางอยู่ในนั้นด้วย และด้วยความอัจฉริยะ ทำให้เขาเข้าใจโลกเสมือนจริงและเกิดการหยั่งรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ เข้าใจกฎต่างๆทำให้มีพลังเหนือมนุษย์ สามารถต่อสู้กับจารชนชุดดำ ที่ถูกสร้างโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างสูสีใกล้เคียงกัน จารชนชุดดำพวกนี้มีหน้าที่สืบความลับและทำลายล้างมนุษย์

ซึ่งต่อมาได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนครอบครองโลกในฝัน และเริ่มเป็นอันตรายต่อตัวเครื่องจักรเอง ในขณะนั้นเครื่องจักรได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าโจมตีมนุษย์ รังใต้ดินกำลังถูกทำลาย แต่ก่อนที่จะสายเกินไป ได้มีการเจรจาตกลงสงบศึกระหว่างผู้นำทางและเครื่องจักร ทำให้เกิดความร่วมมือกัน เข้าทำลายจารชนจนหมดสิ้นและทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอีกครั้ง ส่วนผู้นำทางพระเอกของเราต้องจบชีวิตลงในการต่อสู้ครั้งนั้น

หลังจากที่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว หลายคนพูดว่าเนื้อเรื่องคล้ายๆ กับแนวความคิดในพุทธศาสนา ที่บอกว่าทุกอย่างล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งสิ้น และถูกควบคุมโดยกฎของธรรมชาติ การเข้าถึงสัจธรรมทำให้เกิดการรู้แจ้ง หลุดพ้นจากพันธนาการ เราจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง ในภาพยนตร์ มีอยู่ฉากหนึ่งที่ปู่ชอบมาก เป็นฉากของภัตตาคารหรูหรา บนโต๊ะมีอาหารชั้นเลิศ มีชายสองคนนั่งรับประทานอาหาร ชายคนหนึ่งเป็นจารชนชุดดำ และอีกคนเป็นมนุษย์ที่แปรพักตร์ ชายคนนั้นใช้มีดตัดชิ้นเนื้อสเต็กป้อนเข้าปาก ค่อยๆเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากนั้นได้ดื่มไวน์ตาม ได้พูดกับจารชนชุดดำว่า

" ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าเนื้อที่นุ่มหวานชิ้นนี้และไวน์รสเลิศแก้วนี้เป็นเพียงของปลอมไม่มีจริง เป็นเพียงการประมวลผลให้สมองของฉันบอกว่ามันอร่อย แต่ฉันก็พอใจ ฉันยินดีที่จะทำทุกอย่าง เพียงเพื่อกลับเข้าไปนอนในหลอดแก้วและนอนฝันอย่างนั้นตลอดไป แกต้องสัญญาว่าจะทำให้ฉันกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง และเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด มีความสุขที่สุด ถ้าแกตกลงตามที่ฉันขอ ฉันจะนำพวกนั้นมาประเคนให้แก จารชนรับปาก และยิ้มอย่างพึงพอใจ "

เนื้อความของฉากนี้ ได้สะท้อนความเป็นจริงหลายอย่างออกมาดังต่อไปนี้

ข้อแรก เขายินดีกับความสุขเหล่านั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นความสุขปลอมๆ ข้อนี้คนทั่วไปเป็นอย่างนี้เหมือนกัน

ข้อที่สอง คนๆ นั้นเป็นคนเห็นแก่ตัว สามารถทรยศหักหลังทุกคน เพียงเพื่อตัวเอง

ข้อที่สาม ในด้านชีววิทยา ที่พูดถึงระบบประสาทสัมผัส

สิ่งหนึ่งที่ปู่ได้พบจากการมองเห็นร่างกายมนุษย์ ความรู้สึกร้อนเย็น หรือกระทั่งความเจ็บปวดนั้นไม่มีจริง เป็นเพียงการประมวลผลจากร่างกายไปยังสมอง และประเมินผลรวมเข้ากับข้อมูลที่มีอยู่ ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งต่างๆ เช่นการรับรส เมื่อเรากินสเต็กชิ้นหนึ่ง ถ้าเรารู้สึกอร่อยถูกปาก ก็หมายความว่าข้อมูลของเราบอกว่า นี้แหละคือรสชาติที่เราชอบ แต่ถ้าให้ฝรั่งกิน เขาอาจบอกเราว่าไม่ได้เรื่องเลย ตรงนี้คือความจำได้หมายรู้ที่แตกต่างกัน หรือบางคนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่น พอได้ไปกินของต้นตำรับก็อาจบอกว่าอร่อยสู้ที่เมืองไทยไม่ได้ เพราะรสชาตินั้นได้ถูกปรับปรุงให้ถูกลิ้นของคนไทยไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนความเจ็บปวดก็เช่นกัน เป็นเพียงการส่งสัญญาณการอักเสบ จากบริเวณนั้นไปยังสมองส่วนกลางเพื่อประมวลผล ถ้าอักเสบมากมันจะสั่งให้เรารู้สึกเจ็บปวดมาก กรณีที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ การปวดฟัน เหงือกและฟันไม่ได้ปวด เป็นเพียงอาการอักเสบ ถ้ามีเพียงเล็กน้อย เราจะรู้สึกเพียงปวดหนึบๆ นิดหน่อย อาจมีสาเหตุมาจากมีเศษอาหารติดตรงซอกฟัน เขี่ยทิ้งก็หาย

แต่ถ้าจำเป็นต้องถึงขั้นถอนฟัน หมอก็จะฉีดยาชา เพื่อระงับความปวด เป็นการตัดการส่งข้อมูลไปยังสมอง เราจะไม่เจ็บเวลาหมอถอนฟัน จนกว่ายาชานั้นหมดฤทธิ์ การปวดจึงเป็นระบบเตือนภัยอย่างหนึ่งของร่างกาย มนุษย์ชอบตัดสัญญาณนี้ทิ้งโดยการกินยาระงับปวด นอกจากนี้ความเจ็บปวดยังขึ้นกับจิตใจของเรา ถ้ามีความวิตกกังวลมากเกินไป ความเจ็บปวดจะมีมากขึ้นและนานกว่าปกติ

มีเรื่องสมมุติอีกหลายอย่างในชีวิตประจำวันของเรา เช่น เรื่องเงิน ที่เราใช้แลกเปลี่ยนซื้อขาย สมมุติว่าเรามีเงินและเก็บไว้มาก วันหนึ่งเกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง เขายกเลิกธนบัตรชนิดที่เรามีและประกาศใช้ธนบัตรแบบใหม่ เงินของเราจะกลายเป็นเศษกระดาษทันที หรือทองคำที่ถือาว่าเป็นสินแร่ที่มีค่าหายาก

แต่หากมาวันหนึ่งเกิดค้นพบทองจำนวนมหาศาล กลายเป็นของหาง่าย ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ค่าของทองอาจตกลงจนถูกกว่าเหล็กธรรมดาก็ได้ หรือแม้แต่เพชร สมมุติว่าอยู่มาวันหนึ่งเกิดเจอแหล่งเพชรขนาดมหึมา เพชรอาจมีค่าเหมือนก้อนกรวดก้อนหนึ่งก็ได้ เรื่องนี้บางคนบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นอย่างนั้นมาแล้ว ยาบางชนิดเช่นยาปฏิชีวนะในสมัยก่อนแพงมาก ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ เดี๋ยวนี้ซื้อที่ไหนก็ได้ แม้แต่เครื่องใช้ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงก็ไม่ต่างกัน ตอนออกสู่ตลาดใหม่ๆราคาแพงมาก คนเบี้ยน้อยได้แต่เมียงๆมองๆ เดี๋ยวนี้กลับซื้อขายกันถูกมาก บางครั้งกลายเป็นของแถมไปก็มี

ที่ปู่พูดถึงเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นสิ่งที่เราควรรู้ ความทุกข์หลายอย่างมาจากการที่เราไม่รู้สมมุติ ไปยึดมันมากเกินไปจนเป็นทุกข์ เดินหน้าต่อไปไม่ได้ บางคนทุกข์จากความรัก การถูกทอดทิ้ง ถ้าเราคิดอีกมุมหนึ่งว่าคนๆ นั้นอาจไม่เหมาะกับเรา เลิกคบหากันอาจเป็นเรื่องดี จะได้ไม่มานั่งปวดหัว ทรมานกับสิ่งที่จะตามมาอีกมากมาย

อาจเป็นโชคดีของเราก็ได้ เราจะได้ตั้งต้นชีวิตใหม่ต่อไป หรือบางคนเสียใจที่ไม่ได้สิ่งที่ตัวเองชอบ ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง สิ่งที่เราเห็นว่าดี อาจไม่ดีสมกับที่เราหวังไว้ก็ได้ คิดอย่างนี้สบายใจกว่าเยอะเลย ในบางเรื่องเราต้องอดทนรอคอย อย่าใจร้อน เหมือนผลไม้ที่ยังไม่สุก การได้มาก่อนอาจไม่อร่อยเหมือนที่มันสุกเต็มที่ ความพร้อมความพอดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งการใช้อารมณ์หรือเหตุผล มากเกินไป น้อยเกินไป ไม่พอดี ทำให้การมองสิ่งต่างๆผิดเพี้ยนไป การตัดสินใจอาจผิดพลาดได้

ในทางพุทธศาสนา เราสอนกันว่าทุกอย่างล้วนสมมุติขึ้น นี้ฉัน นี้เธอ นั้นเป็นของเรา ที่เราเรียกว่าสมมติ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆไม่คงที่ บังคับไม่ได้ เช่น เรามีรถยนต์อยู่คันหนึ่ง เราคิดว่าเป็นของเรา อยู่มาวันหนึ่งเราขายไป เปลี่ยนคันใหม่ รถคันนั้นเปลี่ยนสมมุติเป็นของคนอื่นไปแล้ว หรือรถบางคันไปพบกับอุบัติเหตุพังเสียหายยับเยิน สุดท้ายรถคันหรูที่แสนรักไปอยู่ร้านรับซื้อของเก่า จากนั้นอาจถูกนำไปหลอมใหม่ นำมาทำเป็นกระทะ หม้อ เครื่องใช้สอยที่เราใช้อยู่ก็ได้ แม้แต่ร่างกายของเรา เราบังคับมันไม่ได้ ห้ามมันป่วย ห้ามปวดเมื่อยก็ยังทำไม่ได้ มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ร่างกายต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าเราเข้าใจเรื่องแบบนี้ เราจะไม่ทุกข์มากนัก

แม้แต่สมบัติพัสถาน เป็นสมบัติผลัดกันชม ไม่แน่นอน การยึดว่าเป็นของเรา เมื่อต้องเสียไปหรือหายไป ทำให้ใจหายรู้สึกเสียดาย จนใจเป็นทุกข์ หรือในเรื่องหน้าที่การงานก็เช่นกัน บางคนเคยอยู่ในตำแหน่งใหญ่โต เป็นหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ หรือผู้จัดการใหญ่ของบริษัทต่างๆในช่วงที่ยังมีอำนาจ วาสนา มีคนไปมาหาสู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ วันเกิด มีคนนำของขวัญของมีค่ามาให้มากมาย มีคนมายกยอเอาใจ รู้สึกดีใจ ชอบใจ

แต่พอหากเกษียณอายุงาน หรือออกจากตำแหน่งนั้นๆ ไปแล้ว เราก็จะไม่มีใครมาหาอีก รู้สึกเสียใจ พอใกล้ถึงวันปีใหม่ หรือวันเกิด ต้องเดินทางออกไปต่างประเทศ เพราะทนรับความโดดเดี่ยวอย่างนั้นไม่ได้ อย่างนี้ทุกข์เพราะไม่รู้สมมุติ แม้แต่เรื่องในครอบครัว ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง เราไม่อาจแทรกแซงได้ บางครั้งเราอาจผิดหวัง ไม่ได้ดั่งใจ เกิดความคับแค้น เสียใจ แต่ถ้าได้ทำหน้าที่ตามสมมุติ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ในชีวิตของเราการเข้าถึงสัจธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะการู้สมมุติ และรวมถึงการรู้จักการปล่อยวาง เข้าใจความจริงแท้ของโลก ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งข้างหน้าเราก้าวพ้นความทุกข์ได้อย่างแท้จริงที่เรียกว่านิพพาน ...




THAIWARE Dharma | นำข้อมูลบทความออก !  นำข้อมูลออกพิมพ์ !

THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออก โดยการพิมพ์ (Print Article by Printable View)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ MS.Word (Export Article to MS.Word)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ ไฟล์เอกสาร PDF (Export Article to PDF Format Document)
 

THAIWARE Dharma | กลับสู่หน้าแรก ไทยแวร์ธรรมะ
 

 

 

 

  THAIWARE Dharma | ส่งความคิดเห็นจากทางบ้าน !
หัวข้อ เนื้อหา ข้อตกลง
  ความคิดเห็น* :

หมายเหตุ : กรอกรายละเอียดของบทความเข้าไป (ไม่รับ HTML Code) สามารถกด Enter ขึ้นบรรทัดใหม่ได้
  ห้ามโพสข้อความ !

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลต่อ ความมั่นคงของประเทศ

  ที่ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือผิดศีลธรรม

  ที่ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย

  ที่เป็นความผิด เกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ผิดต่อ พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๑
  ชื่อ / อีเมล์* :

หมายเหตุ : "นาย สมชาย รักธรรม" หรือ "somchai.r@gmail.com"
  รหัสยืนยัน* :

 
ฉันยอมรับข้อตกลงที่กล่าวมา ภายในหน้านี้ ทั้งหมด