รู้ลึกรู้จริง เรื่องของ "ขันธ์"

สองตายายมาพบปู่ ท่าทางของยายดูไม่ค่อยดีนัก ท่าทางเหมือนคนป่วย แกถามว่าที่นี่รักษาคนใช่ไหม? ปู่บอกว่าใช่ แกพูดต่อว่าแล้วรับขันธ์ด้วยหรือเปล่า? ปู่ปฏิเสธว่าที่นี่ไม่มีการรับขันธ์ ดูทั้งสองคนทำท่าผิดหวังแล้วจึงลากลับไป สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้คนสับสนและเข้าใจยาก มันดีหรือไม่ดีกันแน่ เพื่อให้กระจ่างขึ้น ปู่จะลองอธิบายจากประสบการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ปู่จะอธิบายแบบสั้นๆ ให้พอเข้าใจ หลายคนอาจได้รับตำตอบที่ต้องการ

ขันธ์คืออะไร?

คำตอบอย่างง่ายสุดคือร่างกาย และความรู้สึกนั้นเอง ร่างกายประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ ได้แก่

- ธาตุดิน : คือกล้ามเนื้อ กระดูก

- ธาตุน้ำ : คือของเหลวทั้งหมดในร่างกาย

- ธาตุลม : คือมวลของอากาศที่เคลื่อนไหว ถ้าอยู่นิ่งๆ ทำให้อวัยวะเราโป่งเป็นรูปร่าง เราเรียกธาตุอากาศ

- ธาตุไฟ : ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่น เผาผลาญอาหาร ส่วนที่สองคือความรู้สึก ความจำได้ หมาย รู้ หรือความรู้สึกของเราทั้งหมด เช่นหนาว ร้อน เย็น ชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ

สิ่งเหล่านี้เรียกว่าขันธ์ ทั้งหมด หรือถ้าแปลตามตัวคือการประชุมกัน การรวมกันก่อให้เกิดตัวเรา ร่างกายหรือสังขารจึงเป็นต้นทุนตั้งต้น ส่วนจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ตามมา การมีชีวิตของมนุษย์ เริ่มต้นจากไข่และอสุจิมารวมตัวกันได้เป็นตัวอ่อนและมีการรับรู้เกิดขึ้น นับตั้งแต่นั้นชีวิตได้เกิดธาตุขันธ์ขึ้นแล้ว

ในกรณีที่เทพได้มาอาศัยอยู่ในตัวมนุษย์ เพื่อสร้างบุญบารมีร่วมกัน บางครั้งทำให้เกิดความยากลำบาก มนุษย์มีกิจธุระมาก บางครั้งไม่เหมาะสมกับการที่เทพซึ่งอยู่ในตัวเราจะต้องมารับรู้ เราจึงตั้งขันธ์เป็นรูปปั้น หรือสิ่งของเพื่อให้ท่านได้พักอาศัยเป็นการชั่วคราว ตัวอย่างเช่นการตั้งรูปโลหะหล่อพ่อปู่ชีวกฯไว้ในอาศรม เพื่อเป็นสื่อกลางและกราบไหว้ เป็นที่ตั้งของฌาณและแหล่งพลังงานให้กับปู่

นอกจากนี้ ปู่ได้เคยช่วยเหลือฤาษีไว้ตนหนึ่ง ท่านได้ลงมาสร้างบุญบารมีผ่านหญิงสาววัยกลางคน ด้วยการนวดแผนไทย เนื่องจากท่านไม่มีขันธ์เป็นที่พักอาศัย จึงเป็นเรื่องนากลำบากทั้งเทพและร่างที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ปู่จึงจัดหารูปปั้นฤาษีและเชิญคนที่สามารถทำพิธี เชิญท่านเข้าอาศัยในขันธ์ที่จัดให้ เป็นการสร้างกุศลแก่เทพ เพื่อท่านและเจ้าของร่างจะได้สร้างบุญบารมีให้มากยิ่งขึ้นต่อไป

เรื่องขันธ์ของกุมารทอง แต่เดิมมา ปู่มีคนงานหยฺงทำงานบ้าน ในตัวแกมีกุมารแฝงอยู่ อยู่กันมานาน จนทำให้ท่าทางและเสียงเหมือนเด็ก ลักษณะนี้ถือเป็นโทษเป็นการเบียดเบียนมนุษย์ เพื่อบรรเทาวิบากกรรมนี้ ปู่จึงได้ซื้อตุ๊กตาให้เป็นขันธ์ เป็นที่อยู่ของกุมาร ทำหน้าที่อยู่เฝ้าอาศรมเป็นการได้ร่วมทำบุญกับปู่ บุญบารมีจะได้สูงขึ้น แต่กุมารตนนี้ ค่อนข้างดื้อ ไม่ยอมรับ จึงทำให้ร่างร้อนรุ่มและลาออกในที่สุด การรับขันธ์เทพเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

ปู่เจอรายหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มารักษากับปู่อยู่นานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนปู่แปลกใจ และที่น่าสงสับคือพลังนั้นเข้าถึงดวงจิต ปกติเจ้ากรรมนายเวรส่วนใหญ่อยู่ได้แต่ภายนอก การเข้าไปได้ลึกขนาดนั้น จะมีเฉพาะเด็กเล็กๆที่หนีกรรมมา เช่น การฆ่าตัวตายในอดีตชาติ พอเกิดมาในชาตินี้จิตของเด็กยังไม่เข้มแข็งพอ จึงถูกพลังวิบากกรรมเข้าครอบงำ ส่วนจิตของผู้ใหญ่มีกำลังมากกว่าเข้าได้ยาก ต่อมาจึงรู้ว่าแกไปรับขันธ์เทพ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการหายจากโรคที่เป็นอยู่ เหมือนกับสองตายายที่เล่าไว้ข้างต้น คงอยากได้แบบนี้กระมัง เทพที่เธอไปรับมาเป็นเทพที่เริ่มสร้างบารมีเป็นฤาษี เมื่อรับขันธ์นั้นมาแล้วกลับไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงไว้ จึงถูกลงโทษ ปู่พยายามเจรจา แต่ท่านไม่ยอม เพราะเธอบ่ายเบี่ยงงานของท่านมาตลอด จึงไม่มีการผ่อนผันให้อีกต่อไป ปู่จึงแนะนำให้เธอกลับไปที่สำนักที่รับขันธ์มา ให้คนที่ทำนั้นแก้ไข ต่อมาเธอส่งข่าวว่าดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่กล้ามาหาปู่ เพราะรู้สึกผิดที่ปิดบังความจริงไว้ ทำให้ปู่เดือดร้อนไปด้วย

การบูชาครูหรือการครอบครู เป็นพิธีกรรมและความผูกพันระหว่างศิษย์กับอาจารย์หรือมนุษย์กับเทพ มักเป็นไปเพื่อการปกป้องหรือเป็นสิริมงคลแก่ผู้รับขันนำไปบูชา การรับขันเทพก็คงมีจุดประสงค์เดียวกัน ที่เขียนว่าขัน เพราะเป็นขันหรือภาชนะเช่นพานไว้ใส่ดอกไม้ธูปเทียน เพื่อบูชาครูหรือเทพ ไม่ใช่ขันธ์แบบที่รับกัน ขันลักษณะนี้เพื่อให้แทนตัวของเทพหรือครูบาอาจารย์ เป็นสื่อที่ผูกพันในเรื่องความดี การระลึกถึง เพื่อให้มีศีลธรรม ไม่ทำความเสียหายให้ครูบาอาจารย์หรือเทพเหล่านั้น การรับขันหรือการครอบครูมักทำในกลุ่มคนเล่นละครโขน ลิเก

ขันธ์บางอย่างมาในรูปของเครื่องรางของขลัง เช่นตะกรุด เชือกคาดเอว เลขยันต์ ส่วนใหญ่ทำจากไสยเวทย์ เครื่องรางของขลังบางอย่างจึงมีผีรวมอยู่ด้วย ไสยแปลว่านอน หรืออีกคำหนึ่งที่นิยมใช้คือ เดรัจฉาน ผู้นอนมา หรือคลานมา หมายถึงกระดูกสันหลังของสัตว์ที่ขนานไปกับพื้นโลก เราเรียกว่าเดรัจฉานวิชา การที่เราจะได้บางสิ่งบางอย่างมา เราต้องมีการแลกเปลี่ยน

ในกรณีเครื่องรางของขลัง ส่วนหนึ่งเป็นบุญที่เราทำให้ อีกส่วนหนึ่งเป็นพลังเลือดเนื้อของเรา ส่วนใหญ่มักใช้ในการสู้รบ คงกระพัน จำเป็นต้องสังเวยด้วยเลือดเนื้อ เมื่อเราไม่ได้ทำอย่างนั้น เราต้องใช้ตัวเราสังเวยแทน เมื่ออายุมากขึ้น ต้านทานไม่ไหวจึงล้มป่วยลง หรือมีอาการหมดแรง แขนขาไร้เรี่ยวแรง ตับไตไม่ทำงาน ปู่ให้เอาสิ่งเหล่านี้ออก จากนั้นปู่รักษาอยู่ไม่นาน หายเจ็บป่วย แข็งแรงขึ้น บางคนยังบ่นเสียดาย เพราะของเขาดีจริงๆ ปู่ก็บอกว่าใส่เข้าไปใหม่ซิ !

เรื่องของขันธ์จึงมีส่วนดีอยู่มาก ส่วนข้อเสียเราต้องระมัดระวังและต้องรู้ให้จริง แต่มาระยะหลังมีการหลอกลวง บอกว่าเป็นขันธ์เทพ กลับกลายเป็นขันธ์ให้ผีอยู่ น่าสยอง นอกจากกินบุญของเราแล้วยังทำให้เราเสื่อมลงทั้งกายและใจ ถ้ามีคนบอกว่านี่ของแท้ ปู่ว่าอย่าเสี่ยงเลย ของแท้ๆงามๆนะหายาก ปลอดภัยไว้ก่อน ยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะน่าจะดีกว่า ปลอดภัยแน่นอน ไร้ความเสี่ยงธรรมะของพระพุทธองค์เป็นของแท้ๆ ที่ไม่เสื่อม พิสูจน์ได้ว่าดีจริง ..

  นำข้อมูลออกพิมพ์ !