ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
 

 

รวมลิ้งค์ เว็บไซต์ธรรมะ ที่น่าสนใจ
  THAIWARE Dharma | รายละเอียด บทความ บทสวด บทคาถา ธรรมะ
เลือกขนาดตัวอักษร ขนาดตัวอักษร :  ก   ก   ก   ก 

บ่วงกรรมแห่งเทพ

 

    Share  
 

 

จากการรักษาผู้คนหลากหลายทำให้ปู่ได้พบเห็นความแตกต่างของพลัววิปริตในแต่ละบุคคล บางคนเป็นเพียงลมเพลมพัด บางคนเป็นเจ้ากรรมนายเวร แต่บางคนเป็นพลังวิปริตที่เกิดจากเทพ และพลังนั้นทำให้เกิดความเจ็บป่วย เกิดทุกข์เวทนาแก่คนๆนั้น มีคำถามว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้? เทพนั้นมีหน้าที่ปกป้องคุ้มมนุษย์ไม่ใช่หรือ? ถ้าอย่างนั้นเรามาลองฟังเรื่องที่ปู่เล่าเทียบเคียงเมื่อจบแล้วคงได้คำตอบ

เรื่องเริ่มต้นจากการที่มีสองพ่อลูกมาหาปู่ คนที่ป่วยเป็นพ่อ ซึ่งป่วยเป็นถุงลมโป่งพองค่อนข้างรุนแรง โรคแบบนี้ปู่เคยรักษามาแล้ว จึงกำหนดว่า เราจะลองมารักษาต่อเนื่องสิบวันและควรหาที่พักใกล้ๆ กับอาศรมของพ่อปู่ชีวกฯ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง

และเมื่อสรุปได้ข้อตกลง การรักษาจึงเริ่มในเวลาต่อมา เมื่อปู่จับศรีษะของชายชราอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามแกว่าคุณไปติดค้างเทพองค์ไหน? ทำไมรับปากเทพแบ้วไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงไว้? แกตกใจไม่คิดว่าปู่จะถามเรื่องนี้ มันเป็นความลับที่ผ่านมานานแล้ว แกจึงสารภาพว่า ตัวแกในวัยหนุ่มเป็นคนชอบนั่งสมาธิมีญาณแก่กล้ามาก และได้รู้ว่าตัวแกมีพันธะกับมหาเทพพิฆเนศวร ได้รับพรเป็นพลังพิเศษมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ แต่เมื่อทำงานรับใช้ท่านไปได้ระยะหนึ่ง เกิดความเหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่าย การทำหน้าที่ช่วยมนุษย์เป็นงานที่หนักและต้องเสียสละ แกจึงได้ขอผัดผ่อนว่าขอสร้างฐานะและเลี้ยงลูกก่อน เวลาได้ผ่านไป แกก็ไม่เคยกลับไปทำหน้าที่นั้นอีกเลย จนเข้าวัยชราและเกิดความเจ็บป่วยเรื่อยมา เมื่อรู้อย่างนี้ ปู่คิดจะยกเลิกการรักษา เพราะความเจ็บป่วยลักษณะนี้ ยากที่จะแก้ไข แต่ก็ต้องใจอ่อน ด้วยเป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ปู่จึงขอความเมตตาจากมหาเทพ ท่านจึงกำหนดเงื่อนไขว่า ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มีคนจำนวนมากเข้ามาพึ่งบารมีพ่อปู่ชีวกฯ เพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา ท่านให้ตั้งองค์จำลองมหาเทพลงมุมหนึ่งของสถานที่นี้ เพื่อให้คนทั่วไปได้สักการะและขอพร เมื่อรู้อย่างนั้นปู่จึงได้บอกเงื่อนไข และสำทับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของปู่ จะคิดอย่างไรตามแต่ใจเถิด จากนั้นปู่ได้ทำการรักษษไปครบสิบวัน ปรากฏว่ารักษาได้เพียงวันแรกกับวันสุดท้าย นอกนั้นไม่สามารถรักษาได้ แสดงให้เห็นว่า ความเป็นความตายอยู่ในมือของท่าน แล้วแต่ท่านจะเมตตา หลังจากการรักษาเสร็จ ชายชรารีบจากไปไม่ร่ำลา ในวันนั้นฝนตกพรำๆ ด้วยความรีบร้อนจึงทิ้งร่มคันใหญ่ไว้ให้ดูต่างหน้า ต่อมาได้มีคนส่งข่าวว่า ชีวิตแกได้สิ้นสุดลงแล้ว

จากบุญกลายมาเป็นบาปน่าฉงน! ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เทพและการเชื่อมโยงกับมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร เทพพุทธศาสนาคือมนุษย์ผู้ที่บำเพ็ญบุญบารมีมามาก เมื่อหมดอายุไขลง ต้องรอเวลากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างสมบุญบารมีอีกครั้ง ในขณะที่รออยู่นั้นด้วยจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตา และต้องการทำบุญกุศลต่อไป จึงมองหามนุษย์ที่มีความพร้อมมาเป็นคู่บุญ ต้องเป็นคนมีศีลสัจ มีความต้องการสร้างบุญบารมีเหมือนกัน เมื่อพบแล้ว และมนุษย์คนนั้นมีความยินดีร่วมบุญ เทพจะใช้บุญฤทธิ์ผ่านมนุษย์เพื่อสร้างบุญบารมีร่วมกัน วิธีการมีหลายรูปแบบ ที่เห็นมากคือการทรงเจ้า การเป็นหมอดูพยากรณ์ การรักษาโรครูปแบบต่างๆ เช่นการนวดแผนไทย การกดจุด การใช้ยาสมุนไพร จากบุญบารมีที่สร้างร่วมกันกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ผูกโยงระหว่างกันและกัน ก่อนหมดภพชาติ หากได้ให้สัจจะที่จะทำต่อไป หรือมีข้อตกลงพิเศษ โดยมนุษย์มีข้อเสนอที่ต้องการแลกเปลี่ยน หนี้บุญนั้นได้กลายเป็นพันธะที่ผูกพัน เมื่อเกิดชาติพบใหม่ข้อตกลงนั้นยังคงอยู่ ถ้าคนๆนั้นไม่ยินดีทำตามข้อตกลง มีการบิดพลิ้วก็จะถูกลงโทษจากเทพ ในการลงโทษมีหลายรูปแบบ เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมาเช่น บางคนทำธุรกิจทำอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่ทุกอย่างพรั่งพร้อม หรือบางคนทำการเกษตรพืชผลที่ปลูกไว้ถูกไฟไหม้หมด เป็นอย่างนั้นซ้ำๆจนหมดตัว หรือบางรายที่ยอมรับใช้เทพแบ้วเกิดความเบื่อหน่าย พยายามหลีกหนี เคยมีปรากฏว่าถูกลงโทษอย่างรุนแรง เอาร่างวิ่งชนกำแพงจนเลือดอาบไปทั้งตัว

บางรายถูกบีบหนักเกิดปัญหามากมาย ร่างกายเจ็บปวดไปหมด ต้องหมอบกราบยกมือท่วมหัว บอกว่ายอมแล้วยอมทำให้ทุกอย่างเบย เมื่อหันกลับมาทำงานให้เทพ การลงโทษจะสิ้นสุด การที่หลายคนปฏิเสธที่จะทำงานให้เทพนั้น มีสาเหตุจากมีวัตรปฏิบัติค่อนข้างเคร่งครัด ต้องถือศีลภาวนา ตั้งอยู่ในความดี ทำให้ไม่สามารถทำตามใจตนเองได้ และสาเหตุใหญ่อีกอย่างหนึ่ง คือความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากอัตคัด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะหากมีลาภยศมาก เกิดความสะดวกสบายทำให้ติดสุข อยากเที่ยวเตร่ มีเมียน้อย มีกิ๊ก ไม่อยากทนทุกข์ลำบากอีกต่อไป ท่านจึงไม่ให้สิ่งเหล่านี้แก่คู่บุญจนกว่าบารมีถึงพร้อมแล้ว หรือสมควรแก่เวลา แต่หากมนุษย์ผู้นั้นสมัครใจเดินเส้นทางโพธิสัตว์ ความยากลำบากนั้น มองได้ว่าเป็นการทดสอบจิต ทดสอบความพร้อม ทำให้เกิดบุญฤทธิ์ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

การสะสมพลังบุญบารมีจึงเปรียบไปคล้ายกับการสะสมพลังขับเคลื่อนของจรวด เมื่อทะยานไปสู่อวกาศหากพลังไม่เพียงพอย่อมถูกแรงดึงดูดของโลก ดึงให้กลับตกลงมาได้อีก เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรม ย่อมต้องอาศัยปัจจัยส่งเสริม บุญบารมีเป็นส่วนที่สำคัญในการเกื้อหนุน ทางลัดที่สามารถก้าวกระโดดคือ การร่วมบุญกับเทพ ทำให้เกิดพลังอันมหาศาลที่จะนำพาให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ถ้าเปรียบเทียบกับการลงทุน เป็นการร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ย่อมง่ายกว่าตั้งต้นเอง ซึ่งต้องใช้เวลานานและยากที่จะทำให้สำเร็จ ในการร่วมบุญต้องมีความระมัดระวังไม่ประมาท ตั้งใจให้มั่นและก้าวอย่างมั่นคงไม่มัวเมา จนทำให้ตกในบ่วงกรรมแห่งเทพ




THAIWARE Dharma | นำข้อมูลบทความออก !  นำข้อมูลออกพิมพ์ !

THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออก โดยการพิมพ์ (Print Article by Printable View)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ MS.Word (Export Article to MS.Word)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ ไฟล์เอกสาร PDF (Export Article to PDF Format Document)
 

THAIWARE Dharma | กลับสู่หน้าแรก ไทยแวร์ธรรมะ
 

 

 

 

  THAIWARE Dharma | ส่งความคิดเห็นจากทางบ้าน !
หัวข้อ เนื้อหา ข้อตกลง
  ความคิดเห็น* :

หมายเหตุ : กรอกรายละเอียดของบทความเข้าไป (ไม่รับ HTML Code) สามารถกด Enter ขึ้นบรรทัดใหม่ได้
  ห้ามโพสข้อความ !

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลต่อ ความมั่นคงของประเทศ

  ที่ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือผิดศีลธรรม

  ที่ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย

  ที่เป็นความผิด เกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ผิดต่อ พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๑
  ชื่อ / อีเมล์* :

หมายเหตุ : "นาย สมชาย รักธรรม" หรือ "somchai.r@gmail.com"
  รหัสยืนยัน* :

 
ฉันยอมรับข้อตกลงที่กล่าวมา ภายในหน้านี้ ทั้งหมด