หลวงพ่อจากวัดมหาธาตุ ท่านได้เดินทางมารักษากับปู่มานานพอสมควร สุขภาพของท่านดีขึ้นมาก ท่านตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทุ่มเทให้กับพุทธศาสนา เนื่องจากท่านใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ท่านจึงมีลูกศิษย์เป็นฝรั่งเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งมีคนศรัทธาแรงกล้ายยกคฤหาสน์หลังใหญ่อายุนับร้อยปีในเยอรมนีให้ท่าน เพื่อใช้เป็นวัดเพื่อเผยแพร่ศาสนา ท่านได้ตอบตกลงและเริ่มดำเนินการ
หลังจากนั้นไม่นาน ท่านรู้สึกเหนื่อยและอ่อนแรง ท่านจึงมาให้ปู่รักษา ปู่รักษาท่านถึงช่วงสุดท้าย เราได้คุยถึงเรื่องคฤหาสน์หลังนั้น ได้มีพลังอาถรรพ์เข้ามาที่ปู่อย่างรุนแรง ทำให้ปู่มีอาการปั่นป่วนไปหมด ปู่จึงขอยุติการรักษาเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นปู่รีบเข้าห้องพระนั่งสมาธิล้างพลังวิปริต และรักษาตัวเองพักใหญ่ ปู่จึงมีอาการดีขึ้น สามารถรักษาคนไข้ได้ต่อไป
ตามกฏโลกทุกอย่างเป็นของคู่กัน พลังในโลกก็แบ่งเป็นสองเหมือนกัน พลังด้านหนึ่งเป็นการเติบโต สร้างสรรค์ เรียกว่าพลังบวกเป็นฝ่ายดี อีกด้านหนึ่งเป็นการทำลาย เป็นพลังลบ พลังวิปริตเป็นฝ่ายร้าย พลังทั้งสองเริ่มจากจุดเดียวกัน ถ้าเป็นไม้บรรทัด ตรงกลางคือเลขศูนย์ด้านหนึ่งเป็นบวก ไปอีกด้านหนึ่งเป็นลบ ทั้งสองส่วนจะรักษาสมดุล เพื่อให้โลกนี้ยังดำรงอยู่ได้ ดังนั้นบางครั้งมีการทำลายขนานใหญ่ หลังจากนั้นทุกอย่างจะฟื้นฟูขึ้นใหม่ เช่นการเกิดไฟป่าอย่างรุนแรง พอไฟสงบ ฤดูฝนผ่านมา ทุกอย่างชุ่มฉ่ำ ต้นไม้เติบโต ป่าเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง
สำหรับมนุษย์เราคุ้นเคยกับพลังเหล่านี้ในรูปของความดีและความชั่ว ทั้งสองด้านมีอยู่ในตัวเรา เพียงแต่ด้านไหนจะมีมากกว่ากัน ถ้าด้านลบมีมากกว่า คนๆ นั้นจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เกิดความมัวเมา ลุ่มหลงอย่างรุนแรง มีความเห็นผิด ทำให้เกิดพลังเลวร้ายสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสิ้นชีวิตลง พลังเหล่านั้นก็ยังคงอยู่และกลายเป็นพลังอาถรรพ์ คฤหาสน์หลังนั้น คงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงอดีตที่เคยเกิดขึ้น ทำให้มีอาถรรพ์ที่รุนแรง ถูกทอดทิ้งร้างมานาน
ญาติโยมที่ถวายท่าน อาจไม่ทราบความนัยนี้ วิธีการที่จะทำให้อาถรรพ์เสื่อมลง ต้องใช้พลังตรงกันข้ามคือความดี พลังแห่งความเมตตา เข้าไปลบล้าง ถ้าเปรียบเทียบกับน้ำ พลังวิปริตเหมือนกรด พลังเมตตาคือด่าง เมื่อพบกันจะกลายเป็นกลาง ไม่มีอันตรายอีกต่อไป แต่ถ้าหากว่าอาถรรพ์นั้นรุนแรงมากๆ ทางที่ดีควรหลบเลี่ยงไว้ก่อน เพราะถ้าจิตเราไม่วิสุทธิ์พอ อาจทำให้เราถูกพลังอาถรรพ์เข้าครอบงำได้
ในทางพุทธศาสนา พระพุทธองค์ได้สอนให้เราอยู่เหนือโลกหลุดพ้นจากกฏคู่ ไปสู่ความเป็นหนึ่ง เมื่อละได้แล้ว ทั้งความดีและชั่วไม่มีอิทธิพลครอบครองจิตใจเราได้อีกต่อไป ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้เราเศร้าหมองได้อีก แม้กายสังขารยังไม่สิ้นสุด ยังต้องทนทุกข์กับเวทนาที่เกิดขึ้นตามกฏของโลก แต่วันนั้นจิตใจของเราเบิกบาน มีความสงบสุขทุกคืนวัน ...