ต้นบารมี
ต้นไม้คือสิ่งให้ชีวิตและร่มเงา โลกจะขาดต้นไม้ไม่ได้ เพราะนั้นคือจมูกที่สำคัญของชีวิต คนเราก็เช่นเดียวกันจะอยู่หรือตาย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “บุญบารมี”
ผู้เขียนจะชี้ให้เห็นว่านอกจากต้นไม้ใบเขียวๆแล้ว เรายังมีเมล็ดพันธุ์อีกหนึ่งชนิดที่อยู่ภายในใจของเรา นั้นคือเมล็ดพันธุ์แห่งความดี
เราจะปลูกความดีให้เจริญเติบโตได้ต้องอาศัยหลักการและวิธีที่เหมือนกันกับการปลูกต้นไม้ เราจะปลูกต้นไม้สักหนึ่งต้นต้องเตรียม ดิน,น้ำ,และปุ๋ย
ต้นไม้ แห่งความดีก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องการ ดิน, น้ำ,ปุ๋ย เหมือนกันกับต้นไม้ แต่ดินของต้นบารมีหรือต้นแห่งความดี คือการให้ภาษาพระเรียกว่า “ทาน” การให้ทานเป็นเสมือนการเตรียมดินที่จะเริ่มการเพาะปลูก เราจึงเรียกมันว่า ต้นบารมี นั่นเอง
มีดินแล้วต้องอาศัยน้ำ ต้นไม้ไม่มีน้ำเมล็ดพันธุ์ก็ไม่สามารถที่จะงอกได้ น้ำของต้นแห่งความดีก็คือ “ศีล” ศีลคือหลักปฏิบัติของชีวิต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เรียบร้อย ถ้าคนเราตั้งมั่นอยู่ในศีลได้ ในโลกนี้หรือประเทศใดก็ตามไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายมาบังคับใช้
มีดินมีน้ำ ต้นไม้ก็ยังไม่สามารถงอกงามอย่างสมบูรณ์ ต้องอาศัยปุ๋ย ปุ๋ยคืออาหารเสริมของต้นไม้ คนเราก็เช่นเดียวกัน อาหารเสริมของชีวิตคือ สมาธิหรือการภาวนา ต้นแห่งความดีต้องการอาหารเสริมเพื่อมาช่วยบำรุงการเจริญเติบโต
การสร้างบารมีก็เช่นเดียวกันก็ต้องการอาหารเสริมเพื่อเติมเต็มให้บารมีของเราเพิ่มขึ้น สมาธิจึงเป็นอาหารเสริมชั้นยอดหรือปุ๋ยชั้นดีของต้นบารมีแห่งชีวิต
ทุกคนมีเมล็ดพันธ์แห่งความดี แต่เราไม่ย่อมที่จะหาดินหาน้ำมาใส่ให้มันงอกเงยขึ้น บางคนทำให้งอกขึ้นแล้วกับไม่ยอมใส่ปุ๋ยสุดท้าย ต้นไม้แห่งความดีก็เริ่มเหี่ยวเฉาลงและตายไปในที่สุด
ดังนั้น เราต้องเริ่มช่วยกันปลูกต้นแห่งความดีให้เจริญเติบโตมากๆ เพื่อช่วยให้โลกของเรามีแต่ความร่มเย็นและสันติสืบไป
ต้นไม้ให้ชีวิตและร่มเงาฉันใด ต้นบารมีย่อมให้ผลแห่งความดีฉันนั้น
ธ.ธรรม