ความทรมาน
โดย ภ.กลิ่นธรรม
เสียงแห่งความทุกข์ทรมานยังกึกก้องโสตประสาทอยู่ตลอดเวลา “ช่วยด้วย” “ทรมานเหลือเกิน” “เจ็บเหลือเกิ้น....ไม่ไหวแล้ว” ความทรมานแสนสาหัสของคนที่เรารู้จัก หรือ ใครก็ตามที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับกรรมของตนที่ทำนั้น ล้วนแล้วทุกขเวทนา จิตก็บอกให้รู้ “วางอุเบกขา รู้แล้ววางเฉย”
พร้อมกับตั้งสติกับตัวเองว่า “คิดดี ทำดี พูดดี” เพียง 3 คำ เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ หากแม้เรารู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำนั้นคือ “บาป” เราจะทำไหม เพราะบทสุดท้าย “กรรม” เหล่านั้นจะไม่เคยหนีเราไปไหน มันต้องกลับมาให้เราชดใช้กรรมเหล่านั้นอยู่ดี จะหนักหรือเบามันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นผู้กระทำ จงหยุดการกระทำนั้นเสียเถิด อย่าให้คำว่า “ทรมานเหลือเกิน” เกิดขึ้นกับเราเลย
บางคนอาจจะประสบกับตัวเองว่า “นรกบนดิน” ทรมานมากเกินกว่าจะทนไหว และตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราไปทำอะไรเนี่ย ทำไม... ทำไม... เราถึงได้ทรมานอย่างนี้ บ้างก็โทษ “โชคชะตากลั่นแกล้ง” เกิดมาไม่มีดีกับคนอื่นเขา “ทรมานเหลือเกิน ไม่ไหว อยากตายแล้ว” คำเหล่านี่ ตัวข้าพเจ้าเองก็เคยพูดมาแล้วทั้งสิ้น จนวันหนึ่งได้คำตอบกับตัวเองว่า โทษตัวเองแล้วได้อะไร อดีตมันก็คืออดีต ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลของมัน วันนี้เราควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดอยู่กับปัจจุบัน ตั้งสติในการใช้ชีวิต จะได้ไม่กลับไปผิดพลาดเหมือนครั้นอดีตที่ผ่านมา ให้บทเรียนของอดีตมาเครื่องสอนจิต ให้มุ่งหน้าสู่ความสว่างของชีวิต เดินหน้าต่อไป เรียนรู้ความทุกข์หรือความสุขให้อยู่ในทางสายกลาง ไม่มีอะไรอยู่กับเราได้ตลอดเวลา
ดังคำสอนของ “ท่านพุทธทาสภิกขุ” สอนว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้า อาจสรุปเป็นแบบหนึ่งได้ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นั่นเป็นเพราะในความเป็นจริง สิ่งทั้งหลายย่อมไม่ได้ดั่งใจเรา มีความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาด้วยเหตุและปัจจัย จึงไม่สมควรที่จะไปหลงยึดมั่นหมายว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นของของเรา สิ่งทั้งหลายไม่ได้ดั่งใจทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร รวยเพียงใด อำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ต่างก็มีความทุกข์ประจำตัวประจำอยู่ทุกคนทั้งสิ้น
ขอให้บทความนี้ เป็นบทความให้ใครก็ตามที่กำลังทรมาน ท้อแท้ สิ้นหวัง ขาดกำลังใจ หรือ สิ่งอื่นที่ใดที่มากระทบกาย กระทบใจ ขอให้พวกท่าน ลุกขึ้น “สู้..” อย่ายอมแพ้โชคชะตา เดินหน้าต่อให้ถึงจุดหมายที่เราวางไว้ด้วยใจอันบริสุทธิ์