โพชฌังคปริตร นอกจากจะเป็นหลักธรรมที่นำสู่การตรัสรู้ และมีอานุภาพในการรักษาโรคแล้ว ยังนำมาประยุกต์ใช้ในภารกิจประจำวันได้อีกด้วย ดังที่หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ ท่านกล่าวยกตัวอย่างการใช้ไว้เป็นแนวทางว่า
"โพชฌงค์ ๗ สติ ธัมมวิจยะ (ทัม มะ วิ จะ ยะ) วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ (ปัด สัด ทิ) สมาธิ อุเบกขา"
โดยทั้งหมด ๗ ประการนี้ เอามาใช้เรื่องทำนาก็ได้ ว่ากันเยอะๆ ว่า
สติ ข้อแรกระลึกนึกถึงเรื่องที่จะต้องทำนา จะต้องหาน้ำ หาท่า หาข้าว หาพืช หาอะไรต่างๆ ระลึกแล้วก็เลือกเป็น ธัมมวิจยะ เลือกที่ดีที่สุด ให้เกิดกำลังใจในการที่จะทำอย่างสนุกสนาน แล้วก็มีความสงบระงับเข้ารูปเข้ารอยเป็น ปัสสัทธิ มี สมาธิ ในการทำถึงทีสุด แล้วก็มี อุเบกขา รอว่าเมื่อไรมันจะออกเป็นรวงข้าวมา
สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา ในโพชฌงค์ ๗ เอามาใช้ในการทำนา นี่เป็นเรื่องไปนิพพาน แต่เอามาใช้ในเรื่องการทำนาก็ได้
จากคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ ทำให้เราได้รู้จักนำหลักธรรมอันเป็นโลกุตตระ (โล กุด ตะ ระ) มาปรับใช้ในระดับโลกิยะ คือใช้ในการดำรงชีวิต การทำมาหากินเพื่อความมั่นคงของครอบครัว ธุรกิจ หน้าที่การงาน ได้อย่างเหมาะสม และเป็นแนวทางดำเนินชีวิตที่ประเสริฐอย่างแท้จริง สำหรับผู้ต้องการเข้าสู่กระแสนิพพาน ก็สามารถนำโพชฌงค์ ๗ ไปเป็นแนวทางปฏิบัติดังที่จะกล่าวในบทว่าด้วย "โพชฌังค์เป็นองค์ธรรมนำสู่โพธิญาณ" ต่อไป ...