ในระดับสูงสุด "นิ่งสยบเคลื่อนไหว" = จิตนิ่ง คือ จิตขึ้นพรหม ถ้านิ่งแล้วไม่เคลือนไหว คือ จิตขึ้นพรหมสูงสุด ที่เป็นโลกุตตรพรหม หรือ ที่เรียกว่า "นิพพานจิต" - ซึ่งรู้ก็สักแต่ว่ารู้ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน
จิต (พุทธะ) ไม่มีการนำเข้าเรื่องราวภายนอกเข้ามาคิดปรุงแต่ง และส่งความทุกข์ไดๆออกไปทั้งสิ้น
จิตพุทธะถ้าจิตเคลื่อนไหว(รู้ไม่สักแต่ว่ารู้ เห็นก็ไม่สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็ไม่สักแต่ว่าได้ยิน) = มีการคิดปรุงแต่ง การคิดปรุงแต่งนี้เองจะทำให้จิตพุทธะแยกตัว ออกมาสร้างจิตอีกดวงหนึ่ง เรียกว่า "จิตสังขาร" จิตสังขารนี้...ในที่สุดจะนำไปสู่ขบวนการปฏิจจสมุปบาท เมื่อขบวนการปฏิจจสมุปบาทเกิดขึ้น ก็นำไปสู่การเกิดในภพภูมิใดภพภูมิหนึ่งใน 3 ภพ
ในระดับสูงสุด "อ่อนสยบแข็ง" = จิตที่อ่อนโยนจะมีพลังจิตสูงกว่าจิตที่แข็งแกร่ง ธรรมะจึงชนะมารเสมอ จิตของพุทธะ และจิตของพระพุทธเจ้า จึงปราบจิตมารได้เสมอ
สรุป
เมื่อจิตพุทธะที่อ่อนโยนที่สุดแยกตัว ออกมาสร้างจิตอีกดวงหนึ่ง เรียกว่า "จิตสังขาร" ดังนั้น..เมื่อจิตสังขารต้องการจะกลับไปเป็นจิตพุทธะ(จิตอรหันต์)ใหม่ จิตสังขารจึงต้องสร้างบุญกุศล ช่วยเหลือ เสียสละแก่ผู้อื่น แม้กระทั่งเสียสละความสุขทางโลกของตัวเอง ก่อน เรียกว่า "สร้างสมหรือสะสมบารมี" ซึ่งเป็นการทำให้จิตค่อยๆอ่อนนุ่ม จนชนะจิตมารของตัวเองที่แข็งแกร่งได้
นี่แหละคือ อ่อนสยบแข็ง เมื่อสยบแข็งได้แล้ว อ่อนจะไม่สนใจต่อโลกีย์กิเลสทั้งปวง จิตจึงนิ่งเมื่อสิ่งยั่วยวนเข้ามา ด้วยเหตุนี้ นิ่งจึงสยบเคลื่อนไหว ในที่สุด