ไทยแวร์ธรรมะ ออนไลน์

Thaiware Dharma Mobile Site
http://dharma.thaiware.com/mobile


ชายกลางคนชื่อ "วัฒนา" อยู่กรุงเทพ เพื่อนแนะนำให้มาหาปู่เพื่อพึ่งบารมีพ่อปู่ชีวกฯ จากนั้นปู่รักษาแกอยู่สองเดือน หายเจ็บป่วย แกดีใจมาก แกจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ปู่ฟัง ปู่คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าจะนำมาเล่าต่อเป็นธรรมทาน

โดยปู่พยายามเรียบเรียงจากคำพูดและมุมมองของคุณวัฒนา แบบสั้นๆ พอให้ได้ใจความ เรื่องเริ่มต้นเมื่อปีสองพันห้าร้อยห้าสิบสอง (พ.ศ. 2552) แกมีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัดไม่สบายมาก จึงไปโรงพยาบาลทำการตรวจร่างกาย ในที่สุดหมอวินิจฉัยว่าแกเป็นโรคมะเร็งปอด ขณะนั้นได้ลามไปถึงกระดูกสันหลังแล้ว คงอยู่ได้ไม่เกินหกเดือน ความเร่งด่วนตอนนี้คือ ต้องตัดปอดออกข้างหนึ่งออก จากฟิล์มเอกซเรย์ที่เห็นปอดข้างนั้นขาวไปหมด ส่วนอีกข้างยังคงดำอยู่ หมอบอกว่าทิ้งไว้นานไม่ได้ อาจช็อกได้

ซึ่งคุณวัฒนาเคยมีประสบการณ์จากเพื่อน ที่เป็นโรคลักษณะและอาการเดียวกันนี้ ได้ตายจากไปแล้ว แกคิดว่าคงไม่รอดเหมือนกัน จึงขอเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่มาอยู่ใกล้บ้าน ผลครวจเหมือนเดิมและได้เข้ารักษาตัวอยู่สามสัปดาห์ น้ำหนักลดลงไปมาก หน้าตาซูบซีด จิตใจคิดว่าคงหมดหวัง แกตัดสินใจกลับบ้าน หมอนัดตรวจอีกสองเดือน

หลังจากนั้นแกได้นั่งรถเมลล์ไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจสิ้นหวัง มาถึงสนามหลวง แกลงที่ศาลหลักเมือง ซื้อดอกไม้ธูปเทียนบูชาเข้าไปไหว้พระ พร้อมอธิษฐานว่า ถ้าตัวแกพอมีบุญอยู่บ้างขอให้ได้พบปฏิหาริย์ ได้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ขอโอกาสอีกครั้ง ต่อจากนี้จะทำแต่ความดี ยึดคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหลักชัยให้กับชีวิต เมื่อกลับถึงบ้าน แกได้เรียกลูกเมียและญาติมาสั่งเสีย ทุกคนพากันร้องไห้ ในคืนนั้นเขานอนหลับเคลิ้มๆ มีมือยื่นมาตรงหน้า มีลูกประคำสองลูก ลูกหนึ่งสีดำ อีกลูกสีขาว แกจึงเลือกลูกประคำสีขาวกำไว้แล้วนำมาแนบกับอก จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีก

รุ่งขึ้นมีเพื่อนจากศรีราชาโทรมาหา ได้ข่าวว่าเพื่อนป่วยเป็นโรคมะเร็งจึงอยากช่วยเหลือ เพื่อนเล่าให้ฟังว่า เมียเคยเป็นโรคมะเร็งไปรักษากับปู่ที่ใช้พลังปราณพ่อปู่ชีวกฯ และได้หายจากโรคมะเร็งมาเกือบหกปีแล้ว ทุกวันนี้ยังแข็งแรงดี แกฟังแล้วตัดสินใจเดินทางไปหาเดื่อนและนอนค้างอยู่หนึ่งคืน

จากนั้นรุ่งเช้าได้พากันเดินทางไปยังบ้านพ่อปู่ชีวกฯ แกบอกว่าลักษณะบ้านเป็นอาคารขนาดใหญ่ มีบริเวณกว้างขวาง มีต้นไผ่รายล้อมรอบตัวบ้าน และมีอาศรมแยกออกมา ภายในมีรูปปั้นพ่อปู่ชีวกฯ ขนาดเท่าคน ตั้งเด่นเป็นสง่า สังเกตดูไม่มีใครเลย ต่อมาจึงรู้ว่าวันนั้นเป็นวันหยุด ด้วยความเมตตา ปู่รับรักษาเป็นกรณีพิเศษ ปู่ตรวจอยู่ห้านาทีแล้วบอกว่ารอดตายแล้ว อาศัยบุญพามาถึงที่นี้ ได้มาพบบรมครูหมอชีวกฯ จากนั้นได้พูดถึงรายละเอียดของโรค อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้แกแปลกใจมาก ทั้งๆ ก่อนหน้านี้แกกับเพื่อนไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ปู่ฟังเลย ปู่รู้ได้อย่างไร! อธิบายได้ละเอียดถูกต้อง ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

หลังจากนั้น ด้วยโรคที่เป็นและวิบากกรรมที่ค่อนข้างหนัก ปู่นัดหมายให้มารักษาสัปดาห์ละสี่ครั้งและค่อยๆ ลดลงเหลือสามและต่อมาเป็นสองครั้งต่อสัปดาห์ เวลาผ่านไปเกือบครบสองเดือน คุณวัฒนาต้องไปพบหมอตามที่นัดไว้ ซึ่งน่าแปลกที่หมอนัดคนไข้อาการหนักขนาดนี้นานถึงสองเดือน โดยไม่ทำการรักษา เรื่องนี้ทำให้ปู่ฉงนมาก

หลังจากที่ได้ไปพบหมอแล้ว ผลการตรวจทำให้หมอแปลกใจ ฟิล์มเอกซเรย์ที่ถ่ายให้เห็นภาพปอด ปรากฎว่าปอดมีครบทั้งสองข้าง ผิดกับภาพเอกซเรย์ก่อนหน้านี้ที่มีปอดเหลืออยู่เพียงข้างเดียว หมอพลิกฟิล์มดูไปมาหลายครั้ง สุดท้ายจึงบอกว่า แกหายจากมะเร็งปอดแล้ว แต่หมอยังคงสงสัยถึงผลตรวจ จึงขอนัดใหม่อีกหนึ่งเดือน ด้วยความดีใจอย่างยิ่ง แกได้เดินทางมาหาปู่ เมื่อพบปู่แกจึงก้มลงกราบ ปู่รีบเรียกให้ลุกขึ้นและพูดว่า

" ปู่ยังไม่สมควรที่ใครจะมากราบไหว้ เพราะปู่ยังเป็นปถุชนคนธรรมดาและเป็นเพียงคนรับใช้ของพ่อปู่ชีวกฯ ไม่ได้มีอะไรวิเศษ หากไม่มีฌาณของท่าน ปู่คงไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ "

หลังจากนั้นแกได้เล่าเรื่องที่ไปพบหมอให้ปู่ฟัง ปู่จึงพูดกับแกว่า ให้ไปตามที่หมอนัด ถ้าหากหมอถามว่าไปทำอะไรมา? ปู่อนุญาตให้เล่าเรื่องที่มารักษาที่นี้ได้ หมอจะได้เรียนรู้ว่า ยังมีการรักษาอีกหลายรูปแบบ โดยเฉพาะบรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ ท่านได้เมตตาแก่มนุษย์ ทำให้โรคภัยหายได้ ในที่สุดแกได้ไปพบหมอตามนัดหมาย ทุกอย่างดูจะดีขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว หมอตรวจดูฟิล์มเอกซเรย์บอกเพียงว่าหายแล้ว กลับบ้านได้ โดยไม่พูดอะไรอีกเลย

ในกรณีของคุณวัฒนา บุญได้มาทันเวลา ทำให้แกมาถึงและได้รับการรักษาทันที ถ้าปล่อยเนิ่นนานไปอีก อาจลุกลามถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับโรคมะเร็งถือว่าเป็นโรคที่เจ้ากรรมนายเวรรุนแรงที่สุด เป็นวิบากกรรมที่ยากจะหนีได้ บางคนมารักษากับปู่หลายครั้ง หายแล้วก็เป็นอีก เคยมีคนมารักษามะเร็งถึงสามรอบ เพราะเหตุที่ได้ทำบาปกรรมไว้หลายกรรมหลายวาระ แม้มีบุญมาช่วยได้ทุกครั้ง

ส่วนการรักษามีทั้งผสมผสานกับหมอแผนปัจจุบัน หรือรักษาด้วยชีวกะบำบัดอย่างเดียว กรณีอย่างหลังนี้ส่วนใหญ่ทนการรักษาไม่ไหวแล้วหรือเป็นระยะสุดท้าย แต่การมาให้ถึงปู่เป็นเรื่องยาก ใช้บุญมาก เกิดอุปสรรคต่างๆ มากมาย ไม่ได้มากันง่ายๆ หรือบางคนเป็นในส่วนที่บอบบางเช่นหลอดลม ทางเดินอาหาร ถ้าหากใช้การฉายแสงร่วมกับการใช้เคมีบำบัด อวัยวะเหล่านั้นจะทนไม่ได้เกิดความเสียหาย ยากแก่การซ่อมแซม ในกรณีนี้ปู่จึงต้องให้คนป่วยเลือกตัดสินใจเอง ปู่ยอมรับว่าการรักษาโรคมะเร็งเป็นเรื่องยากลำบาก การฝ่าวิบากกรรม ค่อนข้างต้องใช้ความอดทนและที่สำคัญต้องมีบุญมาหนุนได้ทัน ปู่จึงอยากเตือนพวกเรา อย่าได้ประมาท หมั่นประพฤติธรรม ถือศีลภาวนา ทำบุญกุศลแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆและให้ยึดมั่นในความดี มีหิริโอตปปะ คือละอายต่อการทำชั่ว และเกรงกลัวต่อบาป



THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออก โดยการพิมพ์ (Print Article by Printable View)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ ไฟล์เอกสาร PDF (Export Article to PDF Format Document)

  หมวด : บทความธรรมะ
  ศาสนา : ศาสนาพุทธ
  จำนวนผู้ชม : 12,485
  ที่มา : หนังสือบรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์
  ผู้แนะนำ / ผู้ส่ง : ทักษพร ดำรงค์สุทธิพงศ์

© 2011-2017