Thaiware Dharma (ไทยแวร์ธรรมะ) เชื่อว่า พุทธศาสนิกชน ส่วนใหญ่ ต้องเคยสวดมนต์ด้วย บทพระคาถา ชินบัญชร ของสมเด็จโตวัดระฆัง กันมาแล้ว บ้างก็จำได้ท่องได้หมด บ้างก็ท่องได้บ้างไม่ได้บ้าง บ้างก็จำไม่ได้เลย ต้องเปิดหนังสือสวดตามตลอด แต่รู้หรือไม่ว่า ในแต่ละบทที่เราสวดไปนั้น มีความหมายที่สำคัญ และลึกซึ้งอยู่มาก วันนี้เรามีความหมายในแต่ละบทว่า ที่เราสวด ชินบัญชร ไปนั้น หมายถึง หรือ หมายความว่าอะไรกันบ้าง ...
๑. บทที่ ๓
ใช้อาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ไปกับตัว
๒. บทที่ ๕
ใช้ภาวนาให้จิตใจสงบก่อนศึกษาเล่าเรียนต่างๆ
๓. บทที่ ๖
ใช้ภาวนาเมื่อต้องแสดงตนต่อที่ชุมนุมหรือต่อหน้าผู้คน
๔. บทที่ ๗
ใช้ภาวนาสำหรับนักพูด นักแสดง ก่อนพูดก่อนแสดง
๕. บทที่ ๘
ใช้ภาวนาสำหรับเสกน้ำล้างหน้า เสกแป้งเจิม
๖. บทที่ ๙
ใช้ภาวนาเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย
๗. บทที่ ๑๐ และ ๑๑
ใช้ภาวนาเพื่อป้องกันอันตรายจากอมนุษย์
๘. บทที่ ๑๓
ใช้ภาวนาเพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
๙. บทที่ ๑๔
ใช้ภาวนาเพื่ออาราธนาขอให้คุณพระคุ้มครอง
ความจริงการสวดมนต์ย่อมเกิดอานิสงฆ์คือผลดี กล่าวคือทำให้จิตใจเบาสบาย โดยเฉพาะพระคาถาชินบัญชรนั้นมีคำกล่าวอ้างเอาพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์สาวก รวมทั้งพระสูตรต่างๆ มาห้อมล้อมป้องกันอันตรายได้ทุกอย่าง ดังที่พระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ)ได้แนะนำให้สวดหลังบทพระพุทธคุณว่า
"พระคาถาชินบัญชรนี่ก็ดีนะ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ว่าสมเด็จโตนี่ท่านมีธรรมชั้นสูง ท่านจึงสวดบูชาพระอรหันต์ชั้นสูงได้ แต่ว่าเรายังไม่ได้ชั้นอะไร พุทธคุณสักข้อก็ไม่มี ธรรมข้อเดียวก็ยังไม่มีไปสวดแล้วมันจะได้ผลอย่างไร ขั้นต้นของบันไดหญ้าปากคอก ต้องมีพระพุทธคุณไว้ในใจ มีพระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เรียกว่า มีพระรัตนตรัยยึดเหนี่ยวทางใจก่อนแล้วค่อยไปสวด อย่างนี้สวดพระคาถาชินบัญชรได้ผลแน่และดีด้วย"