เรื่องของ เจ้ากรรมนายเวร กับ การเจ็บป่วยของ ทุกคน

เมื่อปู่บอกกับคนไข้ว่าอาการเจ็บป่วยนั้น เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรรักษายากต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ รักษากันไป บางคนบอกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เมื่อจำไม่ได้ว่าได้ทำกรรมที่ไหน อย่างไรและเมื่อไหร่ ทำไมเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาไม่รู้ด้วย

ปู่จึงอธิบายว่า กฎของกรรมเป็นสิ่งที่มีความเที่ยงธรรมมากที่สุด การกระทำของเราทุกอย่างถูกบันทึกไว้ทั้งหมด และจะติดตามเราไปทุกหนทุกแห่ง ปู่เรียกเล่นๆ ว่าดีเอ็นเอกรรม เป็นลำดับทั้งกรรมขาวและกรรมดำ รวมเป็นโครงสร้างของชีวิตในแต่ละคนที่ถูกลิขิตไว้แล้ว เราต้องพบกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้โดยไม่สามารถหลบเลี่ยงหรือลบล้างได้ อาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ทั้งหมดสิ่งที่เราทำจึงเป็นมุมเมอแรงที่ย้อนกลับมาหาตัวเรา

สิ่งที่เราควรรู้เกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวร อย่างแรง เจ้ากรรมคือตัวเรา ผู้กระทำกรรมนั้น ส่วน นายเวรคือผู้ที่ถูกกระทำ กลายเป็นพลังที่ติดตามทวงหนี้หรือเป้นภูตผีที่มาจากการทำกรรมในปัจจุบัน เช่นการทำแท้ง การสร้างบาปกรรมหนักๆ ที่ทำให้เกิดแรงอาฆาตพยาบาทอย่างรุนแรง ทำให้เกิดผลในชาตินี้ ส่วนพลังของนายเวรที่เป็นพลังวิปริต โดยมากาจากอดีตชาติ เป็นร่องรอยของคนที่ถูกกระทำ จิตได้แตกออกมาเป็นรูปพลังงานและติดตามเจ้ากรรมเพื่อทวงหนี้ต่อไป ส่วนเจ้าของจิต บางรายไปเกิดแล้วหลายครั้ง

มีคนถามปู่ว่า ถ้าเราทำบาปกรรมโดยไม่เจตนา จะมีผลให้เกิดวิบากกรรมหรือไม่ มีผลอย่างแน่นอนทั้งที่เจตนาและไม่เจตนาในกรณีนี้ที่มีเจตนาอย่างชัดเจน ผลกรรมจะรุนแรงกว่าที่ไม่เจตนาและขึ้นอยู่กัยนายเวรว่าเป็นใครและจิตใจตอนนั้นเป็นอย่างไร ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายๆ เช่นการฆ่าหมาแม่ลูกอ่อน ด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ในช่วงนั้น มีความดุร้ายและหวงลูกมาก อาจทำให้ลูกมันอดตายเพราะขาดอาหาร แรงอาฆาตจะรุนแรงมากขึ้น ปู่เคยสัมผัสพลังนี้มาแล้ว พลังวิปริตบอกกับปู่ว่า มันไม่ยอมรับบุญกุศลที่อุทิศให้ ต้องตายสถานเดียว ซึ่งน่ากลัวมาก

นายเวรที่เข้ามาสู่ตัวเราเป็นรูปแบบพลังงานวิปริต ไปอยู่ในส่วนไหนของร่างกาย ส่วนนั้นจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว จนเป็นความผิดปกติ เกิดความเจ็บปวด ทำงานผิดเพี้ยน กลายเป็นโรคต่างๆ หนักเบาตามรูปแบบและขนาดของพลังนั้นๆ ปู่ชอบเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ ว่าถ้าพลังวิปริตนั้นไปอยู่ในเหล็ก สนิมจะเกิดขึ้นและทำลายเนื้อเหล็กให้เสียไป ถ้าอยู่ในเนื้อไม้ ไม้จะผุพังอย่างรวดเร็วสถานที่อยู่ของนายเวรโดยมากที่ปู่เห็น มักอยู่ที่ส่วนหน้าของสมองด้านซ้าย

เวลาปู่ตรวจดูด้วยญาณของพ่อปู่ชีวกฯ จะมองเห็นการไหลของพลังนี้ ถ้าผ่านจุดใด จุดนั้นจะพลอยเจ็บปวดไปด้วย และมันไปสิ้นสุดในส่วนใด ส่วนนั้นคือ ตำแหน่งที่มันเล่นงาน เช่น ไหลไปถึงมดลูก แสดงว่ามดลูกอาจมีเนื้องอกหรือมะเร็งได้ ถ้าลงเส้นหลังของร่างกาย เส้นเอ็นจะเสื่อมเกิดอาการ เส้นจม เส้นตึง โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ถ้าลงกระเพาะหรือลำไส้ อาจทำให้เป็นโรคกระเพาะ ลำไส้ไม่ทำงาน หรือมะเร็งในกระเพาะ ถ้าลงไต ไตจะทำงานได้น้อยลง หรือไม่ทำงานมีผลกระทบไปยังปอดต่อไป

การเข้ามาของพลังวิปริต มีลักษณะค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นและสร้างขอบเขตพิเศษที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีอยู่ถึงห้าระบบ ที่คอยป้องกันสิ่งแปลกปลอม ไม่สามารถเข้าไปจัดการใด้ เช่น เม็ดเลือดขาวไม่สามารถเข้าไปในเซลล์มะเร็ง บริเวณที่มีพลังวิปริต เข้าครอบครอง หรือพลังวิปริตเหล่านั้น ทำให้ภูมิคุ้มกันพลังอ่อนแอลง จนไม่สามารถทำงานได้ วิธีการรักษาของปู่ต้องทำให้พังวิปริตจางลง อ่อนแรงลง แล้วจึงเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายมีมากขึ้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สามารถเข้าไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพก็จะค่อยฟื้นตัวดีขึ้น ตัวบ่งชี้อย่างหนึ่งคือ ร่างกายจะเริ่มผ่อนคลาย ง่วงนอน เกิดความหิว กินอาหารได้มากขึ้น

เวลาการเข้ามาของเจ้ากรรมนายเวร ในขณะที่ดวงชะตาของเรายังเข้มแข็ง ร่างกายยังแข็งแรง พลังวิปริตเหล่านี้อาจไปออกในเรื่องเงินทอง การงาน หรือในกรณีที่เป็นวิบากกรรมหนักๆ มันจะรอคอยเวลาที่เราดวงตกหรือร่างกายอ่อนแอลง จิตใจใจอ่อนล้าบางคนพอเข้าวัยชราจึงเป็นสารพัดโรค ทั้งๆที่บางคนดูแลตัวเองมาอย่างดีโดยตลอด ไม่ประมาทก็ยังไม่พ้นวิบากกรรมนี้ได้ แต่ถ้าบุญกุศลที่เราเคยทำมาหนุนเนื่องมาทัน โรคภัยเหล่านั้นจะทุเลาเบาบางลง อาจเจอหมอดี ยาดี ทั้งๆ ก่อนหน้านี้พยายามหาไปทั่วสารทิศก็ไม่เจอ กลับโชคร้ายจากการรักษาหรือวินิจฉัยที่ผิดพลาดซึ่งวิบากกรรมเป็นตัวชักนำ ทำให้เป็นไปอย่างนั้น

โรคกรรมเป็นของเฉพาะตัว หาสาเหตุไม่ได้ ไม่คงที่ ไม่แน่นอนบางคนที่มาหาปู่บอกว่าได้ไปให้หมอตรวจร่างกาย ผลการตรวจเลือดความดัน สภาพทั่วไปดีหมด แต่แกยังเจ็บป่วย เจ็บตรงโน้น ปวดตรงนี้ไม่เลิกรา จนบางครั้งคนรอบข้างคิดว่าแกเป็นโรคประสาท เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยากและ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ รู้ได้เฉพาะตัว ต้องผ่านการเรียนรู้มาอย่างยาวนาน จนเกิดความแน่ใจ ปู่จึงนำเรื่องนี้ มาเผยแพ่ให้เป็นธรรมทาน

อีกเหตุผลหนึ่งข้อมูลลักษณะนี้หาได้ยาก ส่วนใหญ่ใช้วิธีตรรกวิพากษ์ใช้เหตุใช้ผลเข้าหักล้าง คาดคะเนเอาบ้าง บางครั้งก็พอฟังได้มีความน่าจะเป็นอย่างนั้น สุดท้ายถามไปทำไมมี รู้หรือไม่รู้ ถูกหรือผิดไม่มีใครบอกได้ ถ้าจะให้ดีปลอดภัยที่สุด ชาตินี้อย่าก่อกรรมชั่วอย่าสร้างบาปกรรม ทำแต่ความดี โรคกรรมจะได้ไม่มาเฉียดใกล้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เราจะได้มีชีวิตที่มีความสุข ปลอดจากโรคภัยตามอย่างพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรัสไว้ว่า อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

  นำข้อมูลออกพิมพ์ !